Review W7 Power Puff Face Blender Spongeฟองน้ำไข่ใช้ดี๊ดี คุณภาพดี ในราคาดี๊ดี

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆทุกคน วันนี้เจินจะมาแนะนำตัวช่วยที่สามารถทำให้การแต่งหน้าของเพื่อนๆนั้น ง่าย รวดเร็วยิ่งขึ้น และจะได้ผิวหน้าที่เนียน ติดทนนาน และดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น นั่นก็คือ เจ้าตัวฟองน้ำไข่ นั่นเองค่ะ

ณ ตอนนี้เจินมั่นใจเลยว่าเพื่อนๆทุกคนที่หลงรักการแต่งหน้า จะไม่มีใครรู้จักตัวฟองน้ำไข่ เพราะมันฮิตมากจริงๆเลยค่ะ มีหลากหลายยี่ห้อ หลากหลายแบบให้เลือกซื้อกันเลย

ส่วนฟองน้ำไข่ที่เจินจะมาแนะนำและบอกต่อเพื่อนๆกันนี่ คือฟองน้ำไข่จากแบรนด์ W7 (ดับเบิ้ลยูเซเว่นค่ะ)

หลายคนคงจะงงว่า มีด้วยเหรอ ยี่ห้อนี่ มีที่มายังไง  ไม่รู้จัก ไม่คุ้นหูเลยจริงๆ เดี๋ยวเจินจะเล่าถึงแบรนด์กันก่อนนะคะ

แบรนด์ W7 เป็นแบรนด์เครื่องสำอางยี่ห้อนึง (แบรนด์เครื่องสำอางราคา drug store)ซึ่งเป็นของประเทศอังกฤษนะคะ  เพิ่งมาเข้าไทยไม่นานมานี้เองค่ะ (น่าจะประมาณ 1 ปีได้แล้วค่ะ)
เจินเองรู้จักตอนที่เค้ามีอายแชโดว์พาเลท 3 พาเลท ซึ่งเป็น Dupes ของแบรนด์ Urban Decay (Naked Palette eyeshadow ทั้ง Naked1-3) มีรีวิวจากบล็อกเกอร์ต่างประเทศหลายท่านเลยค่ะ  นอกจากนี้แล้วยังมีผลิตภัณฑ์มากมาย ทั้งลิปสติกที่สีสวย ชัด , ไฮไลท์-บรอนเซอร์,บลัชเนื้อครีมแบบสติ๊ก และที่เด็ดอีกอย่างคือบรอนเซอร์แบบเนื้อครีม (ที่เค้าว่ากันว่า dupes ของ Soleil Tan de Chanelกันเลยทีเดียว แต่มาในราคาย่อมเยาว์กว่ามากเลยค่ะ)  บอกเลยว่าแบรนด์นี้ไม่ได้มีเครื่องสำอางอย่างเดียวนะ ยังมีเซ็ตแปรงแต่งหน้า แปรงฟองน้ำอีก แปรงแต่งหน้าแบบอื่นๆ ด้วยค่ะ มีผลิตภัณฑ์เยอะแยะมากมากเลยค่ะให้เลือกใช้  ซื้อได้ในราคาไม่แพงเลยค่ะ อยู่ในหลักร้อยเป็นส่วนใหญ่ (เจินบอกเลยว่าแบรนด์นี้เครื่องสำอางใช้ดีเกินราคามากเลยค่ะ )
** หลายคนอาจจะงงว่า Dupes คืออะไร
Dupes คือผลิตภัณฑ์นั้นเป็นตัวตายตัวแทน หรือมีความเหมือนใกล้เคียงกันมากๆ

ขอบคุณเจ้าของภาพทุกรูปเลยนะคะ

เรารู้จักที่มากับแบรนด์อย่างคร่าวๆแล้วนะคะ  ต่อไปเราเข้ามาที่รีวิวของเรากันต่อนะคะ

W7 Power Puff Face Blender Sponge จะมาในกล่องพลาสติกใสๆ ขนาดประมาณ 4×5 เซนติเมตรค่ะ
จริงๆแล้วสีของฟองน้ำไข่ของW7นี้จะมีทั้งหมด 2 สีนะคะ คือสีชมพูสดใส กับสีชมพูอมส้มค่ะ

ส่วนที่เจินได้นั้นจะเป็นสีชมพูสดใสนั่นเองค่ะ ^ ^
มาดูที่ของเจริงกันเลยค่ะ

ด้านหน้า : จะบอกเลยว่า LATEX FREE (คือไม่มียางเป็นส่วนประกอบค่ะ)

ด้านหลัง : จะบอกถึงวิธีการใช้ (เป็นภาษาอังกฤษค่ะ)

พอแกะกล่องและลองจับ บีบฟองน้ำดู คือเนื้อฟองน้ำแน่นดีค่ะ มีรูเล็กๆละเอียดมากค่ะ
ซึ่งนี่แหละจะทำให้เรารู้ได้เลยว่า ฟองน้ำจะไม่กินเนื้อรองพื้นมากค่ะ

ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/krasujern/videos/1147488195292834/?l=4296637309432532718 (วิดีโอค่ะ)

เราเริ่มเข้าสู่วิธีการใช้ฟองน้ำกันค่ะ
1.เอาฟองน้ำมาจุ่มน้ำบิดหมาดๆ หรือเพื่อนๆสามารถใช้สเปรย์น้ำแร่ฉีดที่ฟองน้ำแล้วบีบหมาดๆได้เช่นกันค่ะ อยากบอกว่ายิ่งจุ่มน้ำบิดหมาดประมาณ 2 ครั้ง จะได้ฟองน้ำที่ขยายตัวมากขึ้นอย่างชัดเจนเลยค่ะ

เปรียบเทียบก่อนและหลังจุ่มน้ำ บิดหมาดค่ะ เจินทำการเอามาลองใส่กลับเข้าไปในกล่องอีกครั้งนะคะ เพื่อเปรียบเทียบขนาดฟองน้ำกัน

จากรูปนะคะ พบว่าจะมีการขยายตัวขึ้น โดยเฉพาะทางด้านข้างของตัวฟองน้ำค่ะ

2.ต่อไปเรามาลองใช้ฟองน้ำตัวนี้ลงรองพื้นกันค่ะ โดยเจินใช้วิธีการทารองพื้นเป็นจุดๆทั่วใบหน้า จากนั้นใช้ฟองน้ำกดซับรองพื้นและเกลี่ยทั่วใบหน้า

ผลลัพธ์หลังใช้ จะได้ลุคผิวหน้าที่เนียนอย่างเป็นธรรมชาติ ลุคใสๆเป็นธรรมชาติค่ะ

มาดูกันเลยค่ะ ว่าหลังจากลงรองพื้นด้วยฟองน้ำทั่วหน้าแล้ว  มาดูที่ฟองน้ำกันเลยค่ะ

จากรูป อย่างที่บอกตั้งแต่แรกเลยค่ะว่า กินเนื้อรองพื้นน้อยนะคะ

3.เมื่อใช้เสร็จแล้วก็ล้างค่ะ เพื่อนล้างด้วยคลีนซิ่ง สบู่เหลว หรือน้ำยาทำความสะอาดฟองน้ำโดยเฉพาะก็ได้ค่ะ

ขั้นตอนการทำความสะอาดของเจินคือ
1) ทาสบู่เหลวในจุดที่สกปรกที่สุด บีบสบู่เหลวประมาณไม่เกินครึ่งปั๊ม (ปริมาณนี้แล้วแต่เพื่อนๆเลยค่ะ )
2) ใช้นิ้วมือเกลี่ยสบู่ให้ทั่วฟองน้ำ
3) จุ่มน้ำให้ทั่วแล้วบิดฟองน้ำให้หมาดๆ
4) ทำข้อ 3 ซ้ำจนกว่าฟองน้ำจะสะอาด (เจินทำความสะอาดเพียง 2 รอบค่ะ)

4.ล้างเสร็จแล้วก็เอาไปผึ่งลมให้แห้งค่ะ เพื่อเตรียมใช้งานในครั้งต่อไป ^ ^

ความรู้สึกหลังใช้และคะแนนความพึงพอใจ
ฟองน้ำของ W7 ทำให้เจินประทับใจมากๆ เนื่องจากเป็นฟองน้ำเนื้อแน่น ใช้งานได้นานแน่นอน ไม่ขาดยุ่ยง่าย แทบไม่กินเนื้อรองพื้นเลยค่ะ สปริงตัวได้ดีมาก ซึ่งช่วยให้ประหยัดเนื้อรองพื้น ช่วยให้การแต่งหน้าของเจินสะดวก รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ได้ผิวหน้าที่เป็นลุคธรรมชาติ หากใช้กับรองพื้น และได้ลุคที่ปกปิดมากขึ้น สำหรับการใช้ร่วมกับแป้งผสมรองพื้น นอกจากนี้สามารถใช้เกลี่ยผลิตภัณฑ์อื่นๆได้อีก เช่น คอนซีลเลอร์ บรัชออนเนื้อครีม คอนทัวร์ ไฮไลท์เนื้อครีม
ตัวฟองน้ำมีขนาดเล็ก ขนาดพอดีมือ ใช้งานได้ง่ายค่ะ ประโยชน์เยอะ  เอาไปเลยค่ะ 10/10 รักมากกกกก

****W7 Power Puff Blending Sponge ราคา 200 บาท**** (ขึ้นอยู่กับแต่ละร้านขายนะคะ)
หากเพื่อนๆคนไหน สนใจในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ W7 สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/W7Cosmetic/
https://www.facebook.com/W7CosmeticsThailand/

และสามารถหาซื้อได้ที่
1.ร้าน eveandboy ในสาขากรุงเทพ ทั้งสยามสแควร์ , เมกะ บางนา, ฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต และสาขาอื่นๆ (หรือสามารถซื้อออนไลน์กับทางร้านได้เลยค่ะ)
2.ร้าน Beautrium (ร้านบิวเทรี่ยม ที่ center point Siam)
3.ร้านช๊อปปิ้งเครื่องสำอางออนไลน์ เช่น  www.konvy.com, http://www.beauticool.com เป็นต้น
4.ตามร้านเครื่องสำอางออนไลน์ทั่วไป ทั้งในแอปพลิเคชั่น Shopee TH, ใน instagram เป็นต้นค่ะ

Sponsor product by

เจินขออนุญาตจบการรีวิวเพียงเท่านี้นะคะ หากเพื่อนๆมีข้อสงสัย อยากสอบถาม มีคำแนะนำติชม สามารถคอมเม้นได้ในรีวิวนี้เลยค่ะ ยินดีตอบทุกคำถาม น้อมรับข้อผิดพลาด จะนำมาปรับปรุงแก้ไขให้ดียิ่งๆขึ้นค่ะ
และหากมีข้อผิดพลาดประการใด เจินขออภัยทุกๆคนด้วยค่ะ

เพื่อนๆสามารถติดตามผลงานของเจิน เม้ามอยเรื่องเครื่องสำอางได้ที่
Facebook :https://www.facebook.com/krasujernlovemakeup
https://www.facebook.com/krasujern
Instagram : sujern
Youtube : https://www.youtube.com/krasujernlovemakeup

แล้วเจอกันใหม่ในรีวิวหน้านะคะ ถ้าเจินเจอของดีแล้ว เจินจะมารีวิวให้ทุกคนได้ดูกันอย่างแน่นอนค่ะ
ไปก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ บ๊ายบาย

Review Helloeyetape เทปติดตา2 ชั้นที่ทุกคนต้องมี

สวัสดีค่ะ ทุกคน วันนี้มาพบกับเจินอีกครั้งนะคะ  วันนี้เจินมารีวิวและบอกต่อตัวช่วยที่ทำให้เปลี่ยนลุคการแต่งหน้าได้เลยค่ะ  นั่นก็คือเทปติดตา 2 ชั้นนั่นเอง  บอกเลยไม่ใช่สติ๊กเกอร์ติดตา 2 ชั้นที่ใครๆหลายคนเข้าใจกันนะคะ  
แต่เป็นไฟเบอร์เทป ที่รับรองว่าติดแล้วเนียนมาก ดูไม่ออกว่าติดเทปอยู่ รับรองว่าใช้แล้วไม่มีใครทักว่า
“ติดสติ๊กเกอร์ตาเหรอเธอ”

ก่อนจะเริ่มรีวิว เจินจะบอกก่อนเลยว่าทำไมเทปตัวนี้ถึงเปลี่ยนลุคเจินได้
จริงแล้วๆ เจินเป็นผู้หญิงที่มีชั้นตาที่หลบในทั้ง 2 ข้าง คือมีเส้นตาอยู่นะคะ แต่พอลืมตาเท่านั้นแหละ อะไรเอ่ย มันกลายมาเป็นสาวตาชั้นเดียว สาเหตุคือเกิดจากที่หนังตามันค่อนข้างหนา เนื้อมันปลิ้นออกมา เลยบังชั้นตาของเจินหมดค่ะ  (จริงแล้วก็คิดว่ามันเป็นพันธุกรรมหรือป่าว ไม่มั่นใจเท่าไร แต่ทั้งคุณแม่ น้องชาย และญาติฝ่ายแม่ทุกคน)เป็นแบบนี้กันทุกคน  ยิ่งอายุเยอะมากขึ้น หนังตาก็จะไปบังตา ลืมตาขึ้นยากมาก ส่วนใหญ่ญาติๆจะไปกรีดตากันที่กรุงเทพ กรีดออกมาสวยบ้าง ไม่สวยบ้าง แต่ตัวเจินนั้นยังไม่มีงบเพียงพอที่จะทำ เลยลองซื้อเทปตามาหลายยี่ห้อแล้ว แต่พบว่าของยี่ห้อ hello eyetape นี่คือที่สุดเท่าที่ลองมา

เปลี่ยนชีวิตยังไงบ้าง
1.จากตาชั้นเดียว กลายเป็นตา 2 ชั้นอย่างเป็นธรรมชาติ ติดแล้วมันเนียนกับผิวมาก 
2.กรีดอายไลน์เนอร์เนี่ยไม่ต้องถมให้มันเต็มแล้ว ลุคออกมาเป็นธรรมชาติดี
3.ตาดูมีมิติมากขึ้น แต่งตาได้หลายสีมากขึ้น ถ้าเมื่อก่อนแล้วแต่งตาหลายสีก็ไร้ความหมาย ลืมตาไปก็เห็นแค่สีเดียว 
4.สามารถติดได้ทุกวัน แม้จะเป็นวันที่ไม่ได้แต่งหน้า แต่ถ้าแต่งหน้าก็สามารถติดได้ จะติดก่อนแต่งตาหรือหลังแต่งตาเสร็จก็ได้ 
5.อันนี้คือที่สุดของเจิน คือเจินสามารถดัดขนตาได้มากขึ้นกว่าแต่ก่อน เดิมทีเจินจะดัดขนตาได้ ช่วงกลางของตา แต่พอติดปุ๊บ สามารถดัดได้ถึงหางตาแล้วค่ะ ไม่ต้องใช้นิ้วดึงหนังตาขึ้นแล้ว มันช่วยทำให้เจินดัดขนตาได้มากขึ้นค่ะ

งั้นเรามาดูกันเลยค่ะ  ว่าหน้าตาของผลิตภัณฑ์เป็นยังไง

จริงๆแล้ว เทปของ helloeyetape มี2 แบบนะคะ คือกล่องสีชมพู กับกล่องสีม่วงค่ะ
จะแตกต่างกันที่กาวที่มีมาให้ค่ะ โดยที่กล่องสีม่วงจะเป็นสูตรสำหรับผิวแพ้ง่าย ไม่มีแอลกอฮอล์

งั้นเรามาดูที่ด้านหลังกล่องกันเลยค่ะ

ด้านหลัง จะบอกถึง
1.วิธีการใช้ ว่าใช้ยังไง ข้อแนะนำในการใช้ และคำเตือนก่อนการใช้งาน
2.อายุของผลิตภัณฑ์ คือมีอายุ 3 ปีหลังเปิดใช้ค่ะ
3.บอกช่องทางการสื่อสารของทางแบรนด์

งั้นเราแกะกล่องมาดูด้านในกันเลยค่ะ

เปิดกล่องมาปุ๊บ จะพบของ 3 สิ่งนะคะ ได้แก่
1.ตัวเทปไฟเบอร์  อันนี้เป็นไซส์ L นะคะ (ทางแบรนด์มีทั้งหมด 3 ไซส์ S M L) ยาว 2.8 เซนติเมตร กว้าง 0.7 เซนติเมตร มีทั้งหมด 42 คู่ (แต่ละแผ่นมี 6 คู่ค่ะ)
2.ตัวกาวมาในขวดน่ารักๆ เหมือนขวดน้ำยาทาเล็บ (กล่องสีม่วง กาวสีขาวขุ่น ส่วนกล่องสีชมพู กาวสีเหลืองใสๆ)
ทางแบรนด์บอกว่ากาวสีขาวขุ่นจะแห้งช้ากว่ากาวสีเหลืองใส
3.คีมไว้คีบตัวเทป ทำมาจากพลาสติกค่ะ

งั้นเรามาดูตัวเทป ซูมให้ใกล้ๆเลยค่ะ

วิธีการใช้ของเจิน คือ
1.แกะเทปออกมา แล้ววางไว้ที่หลังมือ ดังรูปข้างบนเลยค่ะ

2.ทากาว โดยการป้ายแบบบางๆนะคะ กลิ่นของกาวนี่ บอกเลยค่ะ ก๊าวกาวของแท้เลยค่ะ 555555
กาวจะค่อยๆเปลี่ยนจากสีขาวขุ่นเป็นสีใสค่ะ กาวนี่พอติดผิวหนังจะทนนะคะ แต่จะไม่ได้ให้ความระคายเคืองเหมือนกับการใช้กาวติดขนตาปลอม พอใช้มือถูก็ถูออกได้ไม่ยาก ออกมาเป็นขุยๆ ดังรูปเลยค่ะ

3.นำคีมคีบเทปแล้วมาติดที่ชั้นตาค่ะ ปรับได้ความต้องการของเพื่อนๆเลยค่ะ
เจินจะเน้นติดช่วงกลางตาถึงหางตา เพื่อยกหางตาให้สูงขึ้น ลองฝึกติดหลายๆครั้ง ให้เจอตำแหน่งที่ใช่กันนะคะ
แต่ละคนมีปัญหาดวงตาไม่เหมือนกัน

เรามาดูผลลัพธ์ที่ได้ค่ะ  เปรียบเทียบก่อนติดและหลังติดเลยค่ะ 

จากรูป ช่วงหางตา เจินขึ้นสูงกว่าเดิม ไม่ตกเหมือนรูปก่อนใช้ค่ะ  เจินไม่ได้แต่งตาเลยค่ะ
บอกเลย ดูไม่ออกจริงๆค่ะ

ความรู้สึกหลังใช้
1.ตัวกาว ใช้แล้วไม่ระคายเคืองเหมือนกับกาวติดขนตาปลอม แต่ประสิทธิภาพนั้นเหมือนกันเด๊ะๆ
กาวแห้งช้ากว่านิดหน่อยค่ะ
2.ติดทนนานตลอดวัน ไม่ปลิ้นออกเหมือนยี่ห้ออื่น
3.สามารถแต่งตาทับได้ ดูเนียนมากๆ ไม่แต่งตาก็ดูเนียน
4.พอใช้เสร็จ แกะเทปออก กาวทำให้ตัวเทปไม่แข็ง ไม่มีคราบกาวติดเทป จึงทำให้เราสามารถใช้เทปนั้นซ้ำได้
(เจินใช้ซ้ำ 2-3 ครั้งค่ะ แล้วค่อยเปลี่ยนเทปอันใหม่)

ให้คะแนนโดยรวม
เอาคะแนนไปเลย 9.5/10
(หักคะแนนตรงที่หาซื้อยากตามร้านทั่วไปที่อยู่ต่างจังหวัด ต้องซื้อผ่านตัวแทนจำหน่ายหรือเว็บไซต์เท่านั้น)

ราคาของ helloeyetape 1 กล่อง ราคา 300 บาทค่ะ

หากเพื่อนๆสนใจ สามารถสั่งซื้อและสอบถามรายละเอียดได้ที่
Facebook: https://www.facebook.com/smilecosmetics
Websize:  http://www.hellobeautys.com/
Instagram: helloeyetape
และตัวแทนจำหน่ายของแบรนด์

วันนี้เจินขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้นะคะ แล้วมาดูต่อกันว่ารอบหน้าเจินจะมารีวิวอะไร
อย่าลืมติดตามกันนะคะ ^^
ช่วยกดไลค์ และสับตะไคร้ให้เจินด้วยนะคะ

ช่องทางการติดต่อ สามารถพูดคุย เม้ามอยกันได้นะคะ
Facebook : https://www.facebook.com/krasujern

Krasujernlovemakeup

Instagram: sujern
Blog :https://www.krasujernlovemakeup.wordpress.com
Youtube:http://www.youtube.com/krasujernlovemakeup

ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ ^ ^